ปอ ตนุภัทร โดนหนักสุด

News

เป็นอีกกระแสร้อนที่มีคนพูดถึง อัยการจังหวัดนนทบุรี เผยว่า ในวันนี้ (27 พ.ค.) ครบกำหนดที่ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ในการจากไปของแตงโม นิดา ต้องเดินทางมารายงานตัวตามคำสั่งของอัยการจังหวัดตามที่ได้มีคำสั่งส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คนต่อไป ตามข้อหาดังนี้

1.นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ

2.นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต

3.นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน

4.นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือ จ๊อบ

5.นางสาวอิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก

6.นายภีม หรือ เอ็ม ธรรมธีรศรี กุนซือ

 

 

-ถูกดำเนินข้อหา ทำ ล า ยพย านหลักฐานฯ -ข้อหาเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่น แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสี ยหา ย ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ถึงกรณีที่ว่าหากอัยการมีคำสั่งฟ้อง แล้ว คุณแม่ภนิดา

 

 

ซึ่งเป็นผู้เสี ยหา ย ได้ยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วม คุณแม่จะสามารถนำพย านหลักฐานอื่นๆ นอกเหนือจากที่มีอยู่ในสำนวนของอัยการ เช่น หลักฐานของนายอัจฉริยะ มาเข้าร่วมพิจารณาได้หรือไม่ โดยนายประยุทธ กล่ าวว่า ในการสั่งปมแตงโม ตอนนี้ยังให้ความเห็นไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบว่าพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรีจะมีการสั่งฟ้องหรือไม่ หรือคุณแม่แตงโมจะยื่นขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมหรือไม่

จึงจะยังไม่ก้าวล่วง แต่ถ้าตอบตามหลักการของข้อกฎหมายที่ใช้ได้กับ ทั่วไป กฎหมายระบุไว้ว่า  พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อ ฝ่ายผู้เสี ยหา ยสามารถที่จะยื่นคำร้อง  ขอเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการได้ ในระยะใดก็ตามก่อนที่ ชั้นต้นจะมีคำพิพากษา ซึ่ง จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่

 

 

หากได้รับอนุญาตให้ผู้เสี ยหา ยเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการแล้ว หากอัยการเห็นว่าผู้เสี ยหา ยที่เข้ามาเป็นโจทก์ร่วม จะกระทำหรือไม่กระทำการใดที่ทำให้เรื่องนี้ของอัยการเสี ยหา ย หรือกระบวนการพิจารณา เสี ยหา ย อัยการก็มีอำนาจร้องต่อ ให้สั่งผู้เสี ยหา ยให้ละเว้นการกระทำได้

 

 

ดังนั้น ในเรื่องพย านหลักฐาน เมื่อผู้เสี ยหา ยมาเป็นโจทก์ร่วมแล้ว พย านหลักฐานทั้งหมดของอัยการ ให้ถือว่าเป็นพย านหลักฐานของโจทก์ร่วมด้วย เมื่อพนักงานอัยการนำสืบพย านหลักฐานใดเสร็จสิ้นแล้ว หากฝ่ายผู้เสี ยหา ยมีพย านหลักฐานอื่นที่จะมานำสืบเพิ่มเติมนอกเหนือจากพย านหลักฐานของอัยการ ก็สามารถทำได้ แต่กฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่า พย านหลักฐานดังกล่ าวจะต้องเป็นการทำให้สำนวนแน่นแฟ้นสมบูรณ์ ทำให้พย านหลักฐานหนักแน่นมากขึ้นในทิศทางเดียวกัน แต่หากผู้เสี ยหา ยเอาพย านหลักฐานใดก็ตามมาสืบ

 

 

แล้วไปขัดแย้งกัน หรือทำล ายน้ำหนักพย านหลักฐานของอัยการ ก็จะทำให้เกิดความเสี ยหา ย อัยการสามารถเสนอต่อ ให้สั่งหยุดการกระทำของฝ่ายผู้เสี ยหา ยได้ ซึ่งสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ ว่าจะสั่งอย่ างไร แต่ตั้งแต่ตนทำหน้าที่เป็นพนักงานอัยการมา ยังไม่เคยมีกรณีที่ผู้เสี ยหา ยนำสืบพย านหลักฐานเพื่อหักล้างพย านหลักฐานของอัยการ เพราะการที่ผู้เสี ยหา ยยื่นขอเป็นโจทก์ร่วม ภารกิจหลักคือเพื่อทำให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นหรือเพื่อเรียกร้องค่าเสี ยหา ย โดยหลักฐานที่อัยการนำสืบส่วนใหญ่จะแน่นแฟ้นสมบูรณ์อยู่แล้ว

ขอบคุณ ch3plus